ชาวคริสเตียนนิกายโปรเตสแตนต์เชื่อว่าการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้นเพราะชีวิตหลัง ความตาย คือการกลับไปมี“ชีวิตนิรันดร์” ซึ่งหมายความว่า เมื่อตายแล้วมนุษย์จะกลับไปอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าในสวรรค์อันเป็นที่อยู่ถาวร ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเตรียมไว้สำหรับมนุษย์ทุกคนที่เชื่อและวางใจในพระองค์
ตามพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า แท้จริงแล้วพระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ให้มี ความตาย แต่มนุษย์คู่แรกทำผิดต่อพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นพระองค์จึงทำให้มนุษย์ต้องตายเพื่อลงโทษการตายก็คือการขาดจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่ในที่สุดแล้วพระเจ้าก็ทรงส่งพระเยซูคริสต์มาไถ่บาปให้เหล่ามนุษย์ เพื่อให้มนุษย์กลับไปคืนดีกับพระเจ้าอีกครั้ง การกลับไปคืนดีนี้คือการกลับไปมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าแบบถาวร ซึ่งไม่มีสิ่งใดแยกได้อีกแม้กระทั่งความตายของร่างกาย ดังนั้นชีวิตนิรันดร์ได้เริ่มต้นขึ้นในชีวิตนี้แล้วทันทีหลังจากเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า
คติความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายของชาวคริสเตียนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตโดยชาวคริสเตียนเชื่อว่าชีวิตบนโลกนี้เป็นเรื่องชั่วคราว ชีวิตหลังความตายยิ่งใหญ่กว่ามาก ดังนั้นชาวคริสเตียนจึงใช้ชีวิต ความสามารถ และวัตถุที่มีอยู่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคมให้ได้มากที่สุด
เมื่อชาวคริสเตียนถึงแก่กรรม จะมีการจัดพิธีศพอย่างเรียบง่าย เพราะเชื่อว่าการตายเป็นการจากไปเพียงชั่วคราว และวันหนึ่งทุกคนจะได้เจอกันอีกครั้งในดินแดนของพระเจ้า พิธีที่สำคัญคือ “พิธีนมัสการไว้อาลัย” ซึ่งอาจจัดขึ้นที่โบสถ์เป็นเวลา 3 - 5 วันโดยประมาณตามแต่สะดวก
เมื่อครบกำหนดพิธีกรรมไว้อาลัยแล้วสมัยก่อนนิยมฝังศพที่สุสาน โดยเคลื่อนศพไปยังสถานที่ฝัง จากนั้นให้ยกศพลงหลุมศพที่เตรียมไว้ ระหว่างทำพิธีมีการร้องเพลงที่มีเนื้อเพลงเกี่ยวกับความหวังในชีวิตหลังความตาย จากนั้นผู้ร่วมพิธีจะนำก้อนดินพร้อมดอกไม้ที่เจ้าภาพแจกจ่ายให้ไปวางในหลุมศพ ปิดฝาหลุมศพ และอธิษฐานอวยพรญาติพี่น้องที่มาร่วมงาน เป็นอันจบพิธี ปัจจุบันชาวคริสเตียนบางท่านอาจทำพิธีเผาที่คริสตจักรที่มีเตาเผาหรือที่วัดไทย แล้วแต่ความประสงค์ของผู้เสียชีวิตและครอบครัว
ตามประเพณีของชาวคริสเตียนนั้นจะมีการรำลึกถึงผู้ล่วงลับและเยี่ยมเยียนสุสานในเทศกาลอีสเตอร์ หรือเทศกาลวันฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นประจำทุกปี
อาจารย์ ภากร มังกรพันธุ์ อดีตผู้ช่วยศิษยาภิบาลแห่งคริสตจักรสืบสัมพันธวงศ์ กล่าวถึงคติหลังความตายของชาวคริสเตียนนิกายโปรเตสแตนต์ว่า “คริสเตียนเชื่อเรื่องการตายแล้วฟื้นดังนั้นการตายจึงเปรียบเหมือนการเปลี่ยน-แปลงที่อยู่จากที่เก่าไปสู่ที่ใหม่ อาจมีความโศกเศร้าคิดถึงผู้จากไปอยู่บ้าง แต่ลึกๆในใจแล้วเรารู้ว่าผู้ที่จากไปมีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่คือชีวิตนิรันดร์ ซึ่งในวันหนึ่งเราทุกคนจะได้พบกันอีก ดังนั้นพิธีศพของชาวคริสเตียนจึงมีบรรยากาศค่อนข้างอบอุ่นมีจุดประสงค์เพื่อให้กำลังใจครอบครัวของผู้ตาย เพราะชีวิตหลังความตายของเรานั้น มีความหวังอันยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหน้าแล้ว”
Cr. goodlifeupdate.com
#คริสต์ #คริสเตียน #ชีวิตนิรันดร์ #ชีวิตหลังความตาย #คริสต์ศาสนา
ล่าสุด