ถ้าพูดถึงการจัดการพิธีศพไทยหลาย ๆ คนน่าจะพอรู้จักกันแล้ว วันนี้ แอดมินจะพาทุกคนมาดูการจัดพิธีศพในแบบจีนกัน เนื่องจากคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยพำนักอยู่ในประเทศไทยมีไม่น้อยเลย นี่เลยเป็นเหตุผลที่เราอยากไขความกระจ่างให้ผู้ที่ยังไม่ทราบหรือทราบแล้วแต่ยังไม่ลึกเท่าไรให้ความใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
ความสำคัญของการทำพิธีศพจีน
จริง ๆ แล้วชาวจีนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับพิธีศพเป็นอย่างมาก ดังนั้น พิธีศพในแบบธรรมเนียมจีนจึงมีความละเอียดและสมบูรณ์แบบ นั่นก็เพื่อแสดงถึงความเคารพนับถือและแสดงความอาลัยต่อบรรพบุรุษเป็นครั้งสุดท้าย อีกทั้งยังแสดงออกถึงความกตัญญูของลูกหลานในตระกูลอีกด้วย
ความเชื่อของการจัดพิธีศพของคนจีน
ถ้าพูดถึงพิธีศพในแบบคนจีน จะมีความซับซ้อนมากกว่าพิธีศพของคนชาติอื่น และมีความเชื่อว่าพลังดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไม่ได้ดับสูญไปตามร่างกาย แต่จะถูกพัดพาไปเป็นหนึ่งเดียวกับผืนแผ่นดิน นั่นจึงทำให้มีธรรมเนียมฝังศพเกิดขึ้นนั่นเอง
แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยน ธรรมเนียมการปฏิบัติก็เปลี่ยนตาม เมื่อจีนได้รับการสืบทอดศาสนาพุทธนิกายมหายานและวัฒนธรรมจากอินเดียจึงมีคนบางส่วนเปลี่ยนจากการฝังเป็นเผาแทน ด้วยความเชื่อที่ว่า ผู้ที่ล่วงลับจะไม่หลงเหลือจิตวิญญาณที่มากับร่างกายอีกต่อไป
ดังนั้น ปัจจุบันจึงยังมีทั้งคนที่นิยมแบบฝังและแบบเผาปะปนกันไปตามความเชื่อของแต่ละคนและแต่ละครอบครัวค่ะ
ขั้นตอนการจัดพิธีศพโดยทั่วไปของคนจีน
ในการจัดพิธีศพแบบจีนที่นิยมปฏิบัติกันในปัจจุบันนั้น จะมีความคล้ายคลึงกับพิธีศพของคนไทยในบางขั้นตอน โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ติดต่อประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดงาน
ขั้นตอนแรก คือ การประสานงานติดต่อในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อซินแส ติดต่อพระเพื่อทำพิธี ติดต่อร้านโลงศพ ติดต่อ
สุสานหรือวัด
2. จัดแจงศพผู้ตายให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย
ขั้นตอนที่สอง คือ การตรวจสอบสภาพศพให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเสมือนกับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ หากการเสียชีวิตเกิดจากอุบัติเหตุโดยขาดความสมประกอบ ก็จะต้องตกแต่งศพให้กลับมาใกล้เคียงสภาพที่สมบูรณ์มากที่สุด จากนั้นก็จะทำการแต่งตัว แต่งหน้าให้สวยหล่อที่สุด โดยนำชุดโปรดของผู้ตายมาสวมใส่ เพราะคนจีนมีความเชื่อว่า การจะนำศพลงไปบรรจุในโลง เปรียบเสมือนการพาศพไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ จึงให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายและโลงที่เปรียบเสมือนบ้านที่สวยงาม
3. ป้อนข้าว ป้อนน้ำแก่ผู้ตาย
ขั้นตอนที่สาม คือ การป้อนข้าว ป้อนน้ำ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกหลานในตระกูลควรทำ โดยระหว่างที่ใช้ตะเกียบคีบข้าวเพื่อป้อน จะต้องมีการกล่าวคำขอบคุณผู้ตายเพื่อเป็นการระลึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้ล่วงลับได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต จากนั้นลูกหลานคนโต สะใภ้ และลูกสาวควรเวียนกันนำกิ่งทับทิมที่จุ่มน้ำมนต์มาสัมผัสริมฝีปากของผู้ล่วงลับ ให้เสมือนดื่มน้ำมนต์และรับพรอันศักดิ์สิทธิ์
4. จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ก่อนบรรจุศพใส่โลง
ขั้นตอนที่ 4 คือ การบรรจุศพใส่โลงนั้น ผู้ทำพิธีจะต้องจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ก่อนบรรจุศพลงโลงที่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหม่ของผู้ล่วงลับ ซึ่งการบ้ายเข้าไปบ้านใหม่ก็ควรต้องมีการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางก่อน หลังจากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการนำผู้ล่วงลับบรรจุในบ้านใหม่อย่างโลงศพ
5. วางกระดาษเงินกระดาษทองและของใช้
ขั้นตอนที่ 5 เมื่อบรรจุผู้ล่วงลับลับไว้ที่บ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นตอนที่ลูกหลานจะนำกระดาษเงินกระดาษทองใส่ลงไปพร้อมกับเสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าทิศทางการวางก็มีผลต่ออนาคตของลูกหลานเช่นกัน และปิดฝาโลง เพื่อให้ซินแสทำพิธีกล่าวคำภาษาจีนพร้อมตอกตะปูต่อไป
6. เคลื่อนศพมาตั้งไว้ที่สุสาน
ขั้นตอนที่ 6 เมื่อปิดฝาโลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาเคลื่อนศพมาไว้ที่สุสาน เพื่อให้ซินแสทำพิธีกล่าวคำภาษาจีนพร้อมตอกตะปู ส่วนถ้าครอบครัวไหนที่ทำพิธีในแบบไทย ก็จะมีการเชิญพระมาสวดอภิธรรมศพ และมีการเคาะโลงเพื่อเรียกผู้ตายมาฟังพระสวด ซึ่งถือเป็นการเตือนสติผู้ร่วมงานทุกคนด้วยว่า ความตายเป็นสิ่งไม่เที่ยง จงใช้ชีวิตในวันนี้อย่างมีคุณค่าและมีความสุขที่สุด
7. ทำพิธีฌาปนกิจหรือฝังศพ
ขั้นตอนสุดท้าย คือ การเผาหรือฝังศพ ตามความเชื่อของแต่ละครอบครัว บ้านที่มีความเชื่อในเรื่อง
ฮวงซุ้ย และมีที่ในการฝังศพก็อาจจะยังคงยึดถือวิธีฝัง ส่วนบางบ้านที่มีความเชื่อในแบบไทย ก็จะนำศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจในวันสุดท้ายของพิธี
เท่านี้เพื่อน ๆ ก็ทราบแล้วว่าการจัดการพิธีศพในแบบจีน มีขั้นตอนและความเชื่อที่สำคัญอย่างไรบ้าง และทำให้เรารู้ว่าเมื่อกาลเวลาเปลี่ยน ความเชื่อก็สามารถเปลี่ยนได้เสมอเช่นกัน
Cr.wreathstation.com