แม้ว่าเชื่อกันว่ามีเพียงธูปดอกเดียวที่สามารถแสดงเจตจํานงที่จริงใจได้ แต่ถ้าคุณต้องการแสดงความคิดถึงต่อผู้ล่วงลับหรือแสดงความกตัญญู คุณอาจต้องนํา "สิ่งของเครื่องใช้" มาแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ จึงต้องมีลิสต์สิ่งที่ต้องนำมากราบไหว้ เพื่อให้ท่านที่ต้องการจะเคารพบรรพบุรุษแต่ไม่รู้ต้องเตรียมของอย่างไร ให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี และในขณะเดียวกันก็เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
ในการไหว้บรรพบุรุษสามาถเลือกประยุกต์ของไหว้ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้ ของเซ่นไหว้หลัก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ผลไม้ อาหารประเภทผัก เค้ก และของเซ่นไหว้อื่นๆ ที่จัดเตรียมตามเทศกาลต่างๆ โดยปกติแล้วตราบเท่าที่เป็นเทศกาลจะใช้เนื้อสัตว์ 3 อย่างเป็นเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เนื้อสัตว์ที่ใช้บ่อยที่สุดสามอย่าง ได้แก่ เนื้อหมู ไก่ทั้งตัวและเป็ด อย่างไรก็ตามสามารถใช้ปลาหรือปลาหมึกแห้งแทนได้
มักกล่าวกันว่าเนื้อสัตว์ 3 ชนิด กับผลไม้ 4 ชนิด หรือเนื้อสัตว์ 3 ชนิด กับผลไม้ 5 ชนิด แท้จริงแล้วไม่สำคัญว่าจะมีผลไม้ 4 หรือ 5 ชนิด แต่จำนวนผลไม้ควรต้องเป็นเลขคี่ เนื่องจากเลขคี่ถือเป็นเลขหยาง ในขณะที่เลขคู่ถือเป็นเลขหยิน หากเป็นผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ ใช้เพียง 1 ผล ก็เพียงพอพอ สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ ไม่ควรเตรียมผลไม้ที่มีเมล็ดหลายเมล็ด เว้นแต่ผลไม้ชนิดนั้นจะเป็นผลไม้ที่บรรพบุรุษโปรดปรานขณะมีชีวิตอยู่ เนื่องจากมีคำกล่าวที่ว่าเมล็ดพืชหลายเมล็ดแสดงถึงความไม่บริสุทธิ์และไม่เคารพต่อบรรพบุรุษ
ประการที่สอง มักจะเตรียมอาหาร 6 หรือ 12 อย่าง ไม่จำกัดเฉพาะเนื้อสัตว์และผัก และยังสามารถเตรียมอาหารตามที่บรรพบุรุษชื่นชอบ ซึ่งจะแสดงความจริงใจมากขึ้น หากคุณไม่มีเวลาเตรียมอาหารมากนัก ก็สามารถซื้ออาหาร 2-3 อย่างเพื่อเคารพบรรพบุรุษตามความปราถนาได้
ขนมแบบดั้งเดิมมีหลายชนิดและแต่ละเทศกาลจะเตรียมขนมที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วในการเซ่นไหว้บรรพบุรุษสามารถเตรียม "ขนมถ้วยฟู (ฮวดโก้ย) หรือ "ขนมแห่งความเจริญเฟื่องฟู" ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป นอกจากเครื่องเซ่นไหว้แบบเดิมๆ ที่ใช้ ในการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ หลายครอบครัวยังเตรียมอาหารเพิ่มเติมโดยเป็นอาหารที่ผู้ล่วงลับชื่นชอบขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่ เช่น ปาท่องโก๋ บักกุ๊ดเต๋ ชานม ขนมปังสับปะรด หรือแม้กระทั่งอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald's และ KFC – สิ่งนี้ไม่เพียงหมายความว่าบรรพบุรุษของพวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับอาหารมื้อใหญ่ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ว่าลูกหลานของพวกเขาจะมีเสื้อผ้าดีๆ ไว้สวมใส่และมีอาหารมากมายให้กิน
ความจริงแล้วมีสุภาษิตดั้งเดิมเกี่ยวกับการเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ว่า ขอให้ผู้คนดื่มน้ำและคิดถึงแหล่งที่มา เปรียบเปรยได้ว่าจงให้ความสำคัญกับพิธีกรรมงานศพของพ่อแม่บุพการีและการบูชาบรรพบุรุษ ลูกหลานต้องระลึกไว้เสมอว่า พวกเขาเป็นหนี้การเสียสละของบรรพบุรุษที่ ที่ลูกหลานมีทุกวันนี้ได้เพราะได้พึ่งใบบุญจากร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่บรรพบุรุษได้ออกแรงสร้างไว้ให้
ล่าสุด