การอุทิศบุญหรืออุทิศส่วนกุศล ถือเป็นหนึ่งในพิธีกรรมทางศาสนา ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าพิมพิสารที่ได้ทำการอุทิศส่วนกุศลด้วยการใช้น้ำเพราะในอดีตพระเจ้าพิมพิสารนับถือศาสนาพราหมณ์ที่กำหนดให้ผู้รับของต้องแบมือรับแล้วใช้น้ำรดลงบนมือ พระองค์จึงชินต่อการใช้ประเพณีของศาสนาพราหมณ์ เมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้าและต้องทำการอุทิศส่วนกุศลจึงเลือกใช้วิธีการนี้
แต่ด้วยความที่พระพุทธเจ้าเป็นผู้ไม่ยึดติดและเดินทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) พร้อมได้เห็นถึงความตั้งใจที่พระเจ้าพิมพิสารต้องการอุทิศบุญให้กับผู้ล่วงลับ จึงไม่ได้มีการห้ามแต่อย่างใด เพราะในพุทธศาสนาการอุทิศส่วนกุศลไม่จำเป็นต้องใช้น้ำแต่ใช้เป็นเพียงแค่การอธิษฐานจิตแบบสั้นๆ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถส่งบุญกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้
ดังนั้น การอุทิศบุญกุศลด้วยการใช้น้ำ จึงมีจุดเริ่มต้นมาจากศาสนาพราหมณ์ในสมัยของพระเจ้าพิมพิสาร นั่นเอง
การอุทิศบุญของพุทธศาสนาจะเน้นเรื่องการอธิษฐานจิตและการเอ่ยชื่อของผู้รับอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ที่ถูกเอ่ยชื่อนั้นได้โมทนาบุญ ก็จะถือว่าได้รับไปโดยตรง แต่ถ้าคุณได้ทำบุญหรือทำทานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้อุทิศหรือตั้งอธิษฐานจิตถึงใคร ผู้ล่วงลับที่คุณต้องการให้รับบุญ กุศล และสิ่งของต่างๆ ที่ตั้งใจอุทิศไปให้ ก็จะไม่ได้รับรวมไปถึงการอนุโมทนาบุญแบบไม่จำเพาะเจาะจง ไม่มีการเอ่ยชื่ออย่างชัดเจน ผู้ที่คุณต้องการให้รับบุญก็จะไม่ได้ด้วยเช่นกัน แต่จะกลายเป็นการให้โดยรวม
ดังนั้น การอุทิศบุญและการทำบุญใส่บาตรให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หรือแม้แต่การกรวดน้ำ จำเป็นที่จะต้องอธิษฐานจิต เพื่ออุทิศทั้งบุญกุศลและสิ่งของที่ถวายพระสงฆ์ไปสู่คนที่คุณต้องการให้ด้วยการเอ่ยชื่อแบบชัดเจน ถ้าจะให้ดีควรเอ่ยทั้งชื่อและนามสกุลครบถ้วน แต่ถ้าต้องการให้ผู้ล่วงลับในจำนวนที่มากขึ้นและเป็นญาติในวงศ์ตระกูลเดียวกัน ควรเอ่ยถึงโดยรวมว่าเป็นญาติพี่น้องในวงศ์ตระกูลเดียวกัน สายเลือดเดียวกันทั้งหมดตั้งแต่ต้นตระกูลลงมา ก็จะช่วยทำให้ญาติในสายเลือดเดียวกันกับคุณได้รับผลบุญด้วยเช่นกัน
ดังนั้น การอุทิศบุญของพุทธศาสนาจะเน้นเรื่องการตั้งจิตเพื่ออธิษฐานให้เกิดความสมประสงค์หรือที่ถูกเรียกว่า การอธิษฐานบารมี
การกรวดน้ําที่ถูกต้อง, การกรวดน้ําอุทิศส่วนกุศล – สำหรับการกรวดน้ำจะเป็นการอุทิศผลบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นการเทน้ำพร้อมการอธิษฐานจิตร่วมกัน และนำสู่การรดน้ำต้นไม้หรือรดลงดิน เชื่อกันว่าน้ำและดินเป็นสื่อกลางระหว่างคนบนโลกมนุษย์กับโลกหลังความตาย ดังนั้น น้ำที่ไหลลงสู่ดินจึงเป็นความเชื่อว่าจะนำพาบุญกุศลและสิ่งของต่างๆ ที่ถูกส่งไปสู่ผู้ล่วงลับแล้วอย่างถึงมือแน่นอนแต่ทั้งนี้จะต้องทำร่วมกับการอธิษฐานจิตที่เอ่ยชื่อแบบเฉพาะเจาะจงด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่ได้เอ่ยชื่อใดๆ ผลบุญนี้เชื่อว่าจะนำพาสู่ตัวผู้ทำบุญเองและไปสู่เทวดารักษาตน
Cr.nippangift.com
ล่าสุด